เข้าใจการตั้ง Facebook Cost Control

Objective Cost Campaign คืออะไร

เราอาจจะเห็นผ่านๆ ตาว่ามันเป็นช่องที่ Facebook Default ให้เป็น Lowest cost กันมาเนิ่นนาน แต่จริงๆ แล้วมันคืออะไร เราปรับยังไงได้มั้ย มาดูกัน

Objective Cost Campaign คือการตั้ง cost control ให้ Facebook รู้ว่าเป้าหมายเราคืออะไร และเรายอมจ่ายแค่ไหน cost per conversion เท่าไหร่เพื่อให้ได้ยอดที่ต้องการ ให้ Facebook ช่วยคุมต้นทุนในการ bid ให้เรา

แล้ว Lowest Cost ที่ Facebook แนะนำเป็นยังไง

Facebook ก็จะหาต้นทุนที่น้อยที่สุดเพื่อให้เกิด conversion ที่เราเลือก .. ฟังเหมือนจะดี แต่จริงๆ หมายความว่า Facebook จะเข้าไป bid ทุก placement ในราคาที่ถูกสุดในตอนนั้นๆ คือต่อให้วันนี้ค่าแอดแพงกว่าเมื่อวานสองเท่า แต่ถ้ามันถูกที่สุด Facebook ก็จะซื้อให้อยู่ดี ก็คือตามชื่อเลย แค่ Lowest cost ในตอนนั้นก็พอ

ดังนั้น ถ้าเราไม่มี cost control Facebook ก็อาจจะใช้เงินทั้งหมดไปซื้อแอดแพงกว่าปกติก็ได้ เพราะมันไม่ติดข้อจำกัดในเรื่อง cost per conversion ใดๆ เลย

แต่หากจะใช้ cost control ให้ได้ผลดี เราก็ต้องมีข้อมูล conversion มากพอด้วย เพื่อ Facebook จะได้รู้ว่า potential audience เป็นคนแบบไหน ค่า conversion rate โดยประมาณคือเท่าไหร่ เพื่อที่มาคำนวณว่าต้อง bid ยังไงถึงจะได้ผลที่ต้องการ  แล้วมีข้อมูลเยอะ นี่เยอะแค่ไหน ก็ประมาณ 50 conversion ต่อสัปดาห์ น้อยกว่านี้ก็ยังพอได้ฮะ

แล้ว Cost control มีอะไรให้เลือกบ้าง ไปดูทีละตัวกัน

1. Cost cap วิธีนี้คือ สมมติเราตั้ง cost cap ไว้ 20 Facebook ก็จะยิงมากกว่า น้อยกว่าหรือเท่ากับ 20 แต่สุดท้ายค่าเฉลี่ย cpc จะอยู่ประมาณ 20
   

2. Bid cap เช่น set ไว้ 20 ก็จะไม่ bid cpc เกิน 20 เด็ดขาด ดังนั้นถ้า Facebook คิดว่าไม่สามารถ bid ได้ มันก็จะไม่ bid เลย .. ก็คือ ad ไม่รันไปเลยจ้า ซึ่งวิธีนี้เราอาจจะได้ cpc ต่ำกว่าที่ตั้งไว้ ROAS ก็ค่อนข้างดีกว่าอันอื่น แต่อาจต้องปรับ bid หนักหน่อยให้มันทำงานได้จริง
   

3. Target cost FB จะ bid ตาม cost ที่ตั้งไว้เลย cost/event คงที่ แต่อาจจะไม่ใช่ cost ที่ต่ำที่สุด ข้อเสียคือเราจะเสีย low-cost conversion ที่ bid cap / cost cap หามาให้ได้ แต่จะคุมต้นทุนได้อย่างเป๊ะๆ แบบแน่นอน

ทั้งหมดก็จะมีตัวเลือกประมาณนี้ ทุกคนก็ลองเอาไปปรับใช้กับแคมเปญตัวเองกันดูนะฮะ